ผมต้องการให้มันจบ

ขอบคุณทุกคนที่ผ่านเข้ามาติชมวิจารณ์สิ่งที่มันเกิดขึ้นนะครับ ตอนนี้ผมสบายใจมากแล้ว และไม่ต้องการต่อความยาวสาวความยืดเรื่องนี้อีกต่อไป ผมได้ซื้อบทเรียนที่สอนอะไรผมมากมายว่าคนๆ ไหนเราควรคบหาเป็นมิตรด้วย

เอนทรีนี้หวังว่าคงจะเป็นเอนทรีสุดท้ายที่ผมจะต้องพูดถึงเค้านะครับ ผมจะพูดเฉพาะประเด็นสิ่งที่เค้าพาดพิงถึงผมเท่านั้น เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของผมเอง ไม่ได้ต้องการซ้ำเติมเค้าแต่อย่างใด

mk กล่าวหาว่าเค้าได้เตือนผมหลายครั้งแล้วเรื่องคำพูดผมไปดูถูกคนอื่น ผมอยากจะบอกว่ามันไม่เป็นความจริงเลย สิ่งที่ใกล้เคียงที่สุดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นครั้งเดียว ณ วันพฤหัสที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ขณะนั้นความขัดแย้งระหว่างเค้ากับผมอยู่ที่ประเด็นผมคอยตามทวงถามหาแหล่งข้อมูลจากเค้า ซึ่งเค้าไม่สามารถหามาแสดงให้ผมดูได้ เค้าคงโกรธผมมากจนทนไม่ไหวไล่ผมออกจากเวบ โดยฝากมาบอกผ่านนายเก่งว่า ให้ไปจากเวบเค้าซักที ผมทำคนอื่นหมั่นไส้มาเยอะแล้ว งาน YouFest กับ BTD ของเค้าก็ไม่ต้องไป (สงสัยจะแค้นผมจัด)

อันเนื่องจากผมคิดว่าตัวเองไม่ผิด ผมเลยบอกไปว่าผมไม่ไปไหนทั้งนั้น ต่างคนต่างอยู่แล้วกัน ถ้าจะสู้กันก็เอาข้อมูลมายัน สู้กันด้วยเหตุผล เค้าไม่พอใจ ด่าไล่หลังผมมาว่า “คนอะไรไล่แล้วไม่ยอมไป” หลังจากนั้นก็บอกแกมขู่ผมอีกว่า ให้เวลาผม 3 วันถ้ายังไม่เลิกตอแย ผมเจอดีแน่

โอเค 3 วันผ่านไป ผมไม่ได้แวะเข้ามาใน Blognone เลย ไม่ได้ online ด้วยซ้ำ ผมไปเที่ยวหัวหินกับเพื่อนๆ มา ตอนกลับมายังคิดในใจว่าเค้าน่าจะหายเป็นปกติได้แล้ว ไม่ควรจะผูกใจเจ็บเคียดแค้นผมอะไรนานขนาดนั้น เย็นวันจันทร์คุณ BowDerKleine โพสบทความที่กลายเป็นข้อพิพาทพอดี ผมยังดีใจอยู่เลยว่าจะได้เคลียร์กันไป โต้แย้งกันด้วยข้อมูลอย่างเป็นกิจลักษณะอย่างคนตัวโตกันแล้วเค้าทำกัน ผมก็โพสไปตามประสา ระหว่างที่โพส ความดีใจที่มีเริ่มแปรรูปเป็นความพะวงเมื่อนึกถึงเรื่องราวเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา โชคไม่ดี สุดท้ายสิ่งที่ผมกังวลก็เป็นจริง

ผมมีประเด็นให้สังเกตดังนี้

– มันเกิน 3 วันที่ผมเลิกตอแยกับเค้าตามที่เค้าร้องขอ (ข้อนี้มันอาจจะไม่เป็นสาระอะไรเท่าไหร่ แต่ผมรักษาสัญญาและพยายามเล่นตามกฎที่เค้าตั้งขึ้นยังไงก็ได้)

– เค้าไม่เคยเตือนเรื่องผมไปดูถูกใครเค้าไว้ จากเหตุการณ์เมื่อวันพฤหัส คำที่ใกล้เคียงที่สุดคำว่า “ทำคนอื่นหมั่นไส้มาเยอะแล้ว” จาก context ข้างๆ ไม่สามารถตีความได้เลยว่าผมไปดูถูกใคร เพราะตอนนั้นเรามีปัญหากันแค่ “ผมกับเค้า” ไม่เกี่ยวกับนักเขียนคนอื่นเลย คนที่หมั่นไส้ผมก็น่าจะหมายถึงคนที่รู้ปัญหาภายในและเข้าข้าง mk เท่านั้น

– เค้าไม่กล้าที่จะเผชิญหน้า ไม่พูดจากับผม การขู่ครั้งนั้นถือเป็นการเตือนครั้งเดียวที่เกิดขึ้น ไม่ใช่หลายครั้งอย่างที่เค้าได้อ้าง

– ถ้าเค้าไม่อคติกับผมจริงๆ เค้าคงเลือกใช้ภาษาที่สุภาพ ไม่ขู่ผมแบบนั้น เตือนผมด้วยรายละเอียดมากกว่านั้น และคงเตือนผมด้วยตัวเองไม่ต้องฝากนายเก่งมาบอก (เค้ามีทั้ง email, MSN ของผม)

– น่าแปลกที่ในบทความที่เป็นข้อพิพาท ไม่มีใครพูดถึงคำพูดผมเลยว่าเป็นการดูถูกนักเขียน จนกระทั่ง mk มาบอกถึงจะคิดกันไปได้ ผมถามหาประโยคไหนที่มันร้ายแรงที่สุด มีน้ำหนักมากพอ ก็ไม่มีใครชี้หรือฟันธงลงไปได้

– ผมถามหาเหตุผลทำไมถึงปลดดาวผมออก คำตอบที่ได้กลับเป็นการปลดสมาชิกผมออกแทน ถ้าการที่ผมไปดูถูกนักเขียนคนอื่นคือเหตุผลในการปลดดาวผมออก อะไรคือเหตุผลที่ชอบธรรมในการปลดสมาชิกผมออกละ?

– อ่านโพสของผมดีๆ จะรู้ว่าไม่ใช่คำพูดของคนที่ต้องการดูถูกคน แต่เป็นคำพูดของคนที่พยายามต่อสู้อย่างตัดพ้อต่อสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น

ผมขอชี้แจงตรงนี้อีกรอบ ผมไม่เคยมีความคิดดูถูกใครเลย บทความในทำนองนี้มันหลีกเลี่ยงการปะทะลำบากอยู่ ผมยอมรับว่าสถานการณ์ที่ผ่านมาก็บีบคั้นให้ผมมีอารมณ์ขุ่นหมองอยู่เหมือนกัน แต่ภายใต้ก้นบึ้งของหัวใจไม่เคยคิดที่จะดูถูกใคร ผมแค่ต้องการปกป้องสิ่งที่ผมเชื่อเท่านั้นเอง

หลายวันที่ผ่านมานี้ ผมมีโอกาสได้ทบทวนอะไรหลายอย่าง ได้ความคิดเห็นและกำลังใจจากเพื่อนๆ คนรู้จัก ได้เห็นข้อเสียของตัวเอง และได้บทเรียนสำคัญในการไว้เนื้อเชื่อใจคนอื่น ได้รู้ว่าคำว่า “เพื่อน” ต้องคิดให้มากกว่านี้ก่อนที่เราจะใช้เรียกใครสักคน

ผมซึ้งใจทุกคนที่ได้เรียกร้องต่อสู้เพื่อสิ่งที่ตัวเองคิดว่ามันไม่ถูกต้อง แต่กรณีของผม ทุกอย่างได้เดินทางมาไกลจนยากที่จะย้อนกลับไปที่เดิม ผมไม่อยากให้ใครมาเดือดร้อนแทนผม ผมไม่อยากให้ใครมองผมว่าใช้คนอื่นมาเป็นเบี้ยในการพิพาทครั้งนี้ ผมซึ้งใจจริงๆ แล้วอยากขอบคุณจากใจ

สุดท้าย ผมขอย้ำตรงนี้อีกครั้งว่าผมต้องการให้มันจบ ไม่อยากจะต่อเรื่องราวให้มันเป็นการเมืองน่าปวดหัว ผมเคลียร์ข้อพาดพิงทั้งหมดแล้ว ผมจะเงียบไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้อีก ผมไม่ต้องการซ้ำเติมใคร ผมไม่ใช่คนประเภทเดียวกับเค้า

สุขสันต์วันสงกรานต์ ขอให้มีความสุขกันถ้วนหน้าครับ

deans4j