นอกจากข่าวใหญ่ๆ อย่าง Flex, WPF/e จะโอเพนซอร์สแล้ว ข่าวสายที่ผมถนัดก็ดูจะเงียบไปเลย คงจะอุบไว้รอเปิดเผยในงาน JavaOne อีกไม่ถึงเดือนนั่นแล
เป็นไปตามสังหรณ์ บ่นอยู่ไม่ทันไรก็โดนไปอีกดอก Flex ดูจะรุกหนักใช้ได้ แม้ตัว Flex Data Services ยังไม่เปิดโอเพนซอร์สและขายโหดเอามากๆ แต่การโอเพนซอร์สตัว Flex SDK ก็เพียงพอที่จะเรียกเสียงฮือฮาได้ระดับหนึ่ง เห็นที่ต้องไปหาหนังสือ ActionScript 3.0 มาอ่านบ้างแล้วละ
ว่าแล้วก็พักเรื่องน่าเบื่อ แล้วมาฟังเรื่องสนุกๆ ดีกว่าเนอะ เห็นทีผมคงต้องทำตามที่พี่ป็อกบอก เล่าเรื่องเที่ยวดูจะมีคนสนใจเยอะกว่าข่าวจาวาแหะ เริ่มเลยละกัน
รู้สึกว่าจะกลายเป็นธรรมเนียมต้อนรับผมไปแล้ว ทุกครั้งที่มาต้องถูกจับให้เป็นนักฆ่าไวรัสให้กับคอมพิวเตอร์ของเหล่าบรรดาคนไทยที่อยู่ที่นี่ประจำ พวกนี้ชอบนึกว่าผมเรียนคอมฯ มาเพื่อสิ่งนี้หรือไงกัน แต่คนทั่วไปก็มักจะคิดกันอย่างนั้นนินา ผมมาถึงได้ไม่กี่วันก็โดนจัดคิวเตรียมท่องบ้านคนนู้นคนนี้เป็นแถว ค่าตอบแทนที่ได้ส่วนใหญ่ก็เป็นอาหารหนึ่งมื้อและการแลกเปลี่ยนเรื่องราวหน้าที่การงานของคนแต่ละคน คนไทยที่มาอยู่ที่นี่ไม่ต้องกลัวอดอยากอาหารไทย ร้านขายของ ผักผลไม้ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร รวมไปถึงละครทีวี มีคนนำเข้าหมด รู้สึกจะเป็นคนอาหรับที่ได้เมียคนไทยที่เป็นเจ้าของ
ตึกที่ผมพักอยู่ที่นี่อยู่ใกล้กับทะเล มีสวนหย่อมขนาดใหญ่ขนานไปตลอดทาง ครั้งก่อนที่มาจำได้ว่าเค้ากำลังถมทะเลเพื่อเพิ่มเนื้อที่สวนให้กว้างขึ้น มีการเล่นลวดลายถมเป็นรูปต้นปาล์มหรืออินธผาลัมด้วย ตอนนี้ถมเสร็จแล้วสวยดี ส่วนพื้นที่ด้านหลังแต่ก่อนเป็นตลาดเก่า ตอนนี้ก็รื้อทิ้งจะทำห้างหรือคอนโดก็ไม่รู้ อากาศช่วงนี้ดีกว่าบ้านเราเยอะ หน้าร้อนมาช้ากว่าเราประมาณ 1-2 เดือน ตอนกลางวันแดดแรงก็จริง แต่ส่วนใหญ่ก็จะอยู่กันในอพาร์ตเมนต์ที่เป็นห้องแอร์ ถ้าออกไปข้างนอกก็จะเจออากาศร้อนแห้ง เหงื่อออกยากกว่าบ้านเราเยอะ เมืองไทยอากาศร้อนชื้น ออกไปยังไม่พ้นหน้าปากซอยแขนนี่ชุ่มเหงือตัวเหนียวกันแล้ว
ถ้านึกขึ้นมาได้ว่าต้องไปซื้อของตามร้านทั่วๆไปตอนเที่ยงกว่าๆ ก็ต้องทำใจ เพราะเค้าปิดหนีร้อนกันตลอดช่วงบ่าย ช่วงนี้คนจะหนีไปนอนกลางวันกันจะไปเปิดกันอีกทีก็ 4-5 โมงเย็นไปปิดอีกทีตอนสี่ทุ่มกว่าๆ ใต้ตึกที่ผมอยู่จัดได้ว่าเป็นย่านร้านขายผ้าแพง จะมีพวกอาหรับไฮโซมาเดินเลือกผ้าตัดชุดสวยอยู่ประจำซึ่งสังเกตได้จากอาภรณ์ชุดดำที่ดูเท่กว่าของคนทั่วๆ ไป ท่าเดินกรีดกราย และกระเป๋าถือของหล่อนๆ ที่หน้าร้านจะมีหุ่นสวมชุดราตรี เว่อร์ๆ แนวไก่วรายุทธตั้งโชว์อยู่เพียบ ยิ่งทำให้ผมสงสัยว่าคนพวกนี้เอาโอกาสที่ไหนไปใส่กันในเมื่อออกข้างนอกเธอก็แต่งชุดดำสไตล์ปารีสตลอดเวลา มาถึงบางอ้อก็ตอนไปถามแม่ แม่เล่าว่าอาหรับชั้นสูงพวกนี้นัดเลี้ยงกันบ่อย พอไปเจอกันที่บ้านใครผู้ชายก็จะแยกไปคุยกันเอง ส่วนผู้หญิงก็จะแยกออกมาต่างหากเป็นสัดส่วน พอเข้าไปข้างในอาภรณ์สีดำของเธอจะถูกเปิดออกจนเห็นเสื้อผ้าที่ไปสรรหาตัดกันมา ต่างคนต่างอวดโฉมผิวพรรณและนั่งเมาท์เรื่องสวยเรื่องงามของกันและกัน
อาหรับที่นี่ถ้าเป็นคนพื้นถิ่นส่วนใหญ่จะรวย คนพื้นถิ่นของประเทศนี้มีน้อย อย่างว่าก่อนเจอน้ำมันพื้นที่ตรงนี้เป็นชนบทบ้านนอกของกลุ่มชาติอาหรับเค้าละ รัฐบาลเลยต้องช่วยเข็นช่วยดันกันเต็มที่ มีบ้านมีรถให้ โอกาสหน้าที่การงานก็จะดีกว่าคนทั่วไป ผมมีวิธีสังเกตอาหรับพื้นถิ่นได้จากการแต่งตัว ถ้าใส่ชุดโต๊บยาวสีขาวล้วน โผกผ้าซารบั่นสีขาวมีเชือกคาดสีดำส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคนพื้นถิ่น อาหรับต่างถิ่นก็จะมีวิธีสังเกตแตกต่างกันไป ถ้าเป็นอาหรับซาอุฯ จะโผกผ้าซารบั่นสีแดงหมากรุก อาหรับเปอร์เซียก็จะขาวๆ ตัวใหญ่ๆ หน่อย พวกนี้จะไม่ใส่ชุดโต๊บกันจะแต่งชุดสากลซะมากกว่า
ผมเคยไปมหาลัยที่ให้เฉพาะคนพื้นถิ่นเรียนเท่านั้น พอดีเพื่อนพ่อเป็นอ. ผมเลยถือโอกาสขอไปทัศนศึกษาซะเลย เข้าไปอย่างกับโรงแรม รถหรูๆ จอดกันอย่างกับงานมอเตอร์โชว์ เพื่อนพ่อบอกว่าตอนเข้าเรียนครั้งแรกนักศึกษาจะได้รับแจกอุปกรณ์การเรียนเป็น taplet PC คนละเครื่องอีกต่างหาก ห้องสมุดใหญ่โตดีทำเอาผมจมไม่ได้ไปไหนเลย
แต่ไม่ใช่ใครมาทำงานที่นี่แล้วจะรวยไปซะหมด ถ้าแรงงานไทยหวังจะมาหางานประเภทใช้แรงงานเลิกหวังไปได้เลย มองหาประเทศฮ่องกง สิงค์โปร์ยังดีซะกว่า คนอินเดีย ปากีฯ ที่นี่ค่าแรงถูกมาก คนปากีฯ ส่วนใหญ่จะขับแท็กซี่ เป็นคนงานก่อสร้าง คนอินเดียจะเห็นหลากหลายชนชั้นอาชีพกว่า คนพวกนี้แยกแยะได้จากเสื้อผ้าที่ใส่เหมือนกัน คนอินเดียจะใส่ชุดสากล คนปากีฯ จะใส่ชุดปากีฯ อธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่าเป็นยังไง ถ้าบังกะลาเทศก็จะคล้ายๆ อินเดียแต่บางทีก็จะนุ่งสโหร่งด้วย (คนอาหรับไม่นุ่งสโหร่ง) เสื้อผ้าดูจะเป็นตัวบ่งชี้ฐานะและเชื้อชาติที่ดีที่สุดที่ผมมี ถ้าจับคนละแวกเอเชียใต้มาแต่งตัวตัดผมเหมือนๆ กันผมก็แยกไม่ออกแหะ
ฟิลลิปินส์ก็ถือเป็นหนึ่งในแรงงานนำเข้าค่าแรงถูกที่เห็นอยู่ทั่วไปหนาตา พวกนี้หน้าตาคล้ายคนไทยแต่พูดภาษาอังกฤษได้ ส่วนใหญ่จะถูกจ้างเป็นแคชเชียร์หรือพนักงานในศูนย์การค้า อาหรับก็คงมีปัญหาเดียวกับผมเรื่องการแยกแยะสัญชาติ บางทีทักพ่อเป็นญี่ปุ่นทักผมเป็นจีนยังมีเลย ส่วนฝรั่งหัวแดงก็เจอเยอะอยู่ แต่จะเจอแถวดูไบมากกว่าอาบูดาบี้
ยังอยู่อีกหลายวัน วันนี้เล่าเยอะแล้วเก็บไว้เล่าคราวหน้าบ้าง เอาเป็นว่าไว้ผมออกเที่ยวคราวหน้าจะยืมกล้องพ่อไปถ่ายรูปเอามาให้ดูละกัน